วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อัญมณี 12 ราศรี

อย่างที่รู้กันน่ะคร้า...ว่า สี ก็เกี่ยวข้องกับความเชื่อของมนุษย์เรา ในการเลือกเครื่องประดับที่ทำจากหิน หรือ อัญมณีต่างๆ ดังนั้น เรามาดูกันค่ะว่า  สี ของอัญมณี หรื อัญมณีประเภทใด จะมีพลัง ส่งสริมให้ผู้เกิดในแต่ล่ะเดือน มี อำนาจ หรือ ทำให้สง่างาม คร้าาา



1.ราศีมังกร (14 ม.ค. – 13 ก.พ.)

อัญมณีประจำราศี : โกเมน โกเมน เป็นอัญมณีในตระกูล Garnet มีความแข็ง 7 – 7.5 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้ว คำว่า Garnet มาจากภาษาละตินว่า Granatus แปลว่า เหมือนเมล็ดพืชผู้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า อัญมณี ชนิดนี้มีสีแดงเพียงสีเดียวตามคำกลอนนพรัตน์ “แดงแก่ก่ำ โกเมนเอก ” แต่จริง ๆ แล้ว แต่อัญมณีชนิดนี้มีสีมากถึง 15 สียกเว้นสีน้ำเงิน ส่วนสีแดงเป็นสีของโกเมนที่มีมาก ที่สุด ประเภท ที่นิยมนำมาทำเครื่องประดับ คือ อัลมานไดน์ (Almandine) มีสีแดงเข้มสีแดงอมน้ำตาล หรืออมม่วง และไพโรบ (Pyrope) มีสีแดงสดซึ่งสอดคล้องกับรากศัพท์ภาษากรีกโบราณที่แปลว่า ไฟ ด้วยความที่เป็นอัญมณีสีแดงที่เกิดจากธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบและบางครั้งก็ มีสีสันสวยงามมากจึงทำให้บางคนมักเข้าใจผิดว่าเป็นทับทิม แต่โกเมนต่างกับทับทิม คือโกเมนส่วนใหญ่ มีสีแดงอมน้ำตาล แต่ทับทิมมีสีแดงสดใสและโกเมนมี ความแข็งน้อยกว่าทับทิม โกเมน เป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณ กล่าวกันว่า โนอาห์ (Noah) ผู้พาสิ่งมีชีวิตหนีน้ำท่วมโลก ใช้โกเมนประดับเรือเรืออาร์ค (Ark) เพื่อให้แสงสว่างในการเดินทางในตอนกลางคืน ชาวอียิปต์ ชาวก รีกและชาวโรมันก็ใช้โกเมนมาทำเป็นเครื่องประดับ ในสมัยวิคตอเรียอัญมณีสีแดงชนิดนี้เป็นที่นิยมนำมาทำเครื่องประ ดับด้วยเช่น กัน เครื่องรางป้องกันภัย โกเมนเป็นอัญมณีสีแดงจึงมีพลังช่วยรักษาสมดุลของระบบหมุนเวียนโลหิต มีพลังช่วยเสริมดวงให้มีความแข็งกล้ามากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มบารมีให้มีความสุขุมมา กขึ้น สีสันของอัญมณี ที่เหมาะกับคนราศีมังกรคือ สีขาว สีเหลือง และสีเหลืองอ่อน

โกเมน

 
2.ราศีกุมภ์ (14 ก.พ. – 13 มี.ค.)

อัญมณีประจำราศีคือ แอเมทีสต์ อะ เมธิส (Amethyst) เป็นอัญมณีสีม่วงที่เกิดจากซิลิคอนออกไซด์อยู่ในแร่ตระกูลควอร์ตซ์ (Quartz) ซึ่งเป็นแร่ที่มีมากที่สุดในโลก มีความแข็ง 7 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้ว สีของมันมีตั้งแต่สีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงเข้มสำหรับอะมีทิสต์สีอ่อน เรียกว่า Rose de France ส่วนสีเข้ม เรียกว่า ม่วงดอกตะแบก อะ เมธิสเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะอัญมณีศักดิ์สิทธิ์สำหรับการสักการะชาว อียิปต์โบราณนับถืออะเมธิสมากมีการฝังแอเมทิสต์ทรงหัวใจไว้ในสุสาน ของฟาโรห์จำนวนมากตามคำสอนในคัมภีร์แห่งความตาย (The Book of the Dead) ส่วนทางด้านศิลปะชาวอียิปต์ได้สลักรูปแมลงจากอัญมณีสีม่วงนี้ ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้กล่าวถึงอะมีทิสต์ว่าเป็น 1 ในอัญมณี 12 ชนิดที่ประดับลงบนจีวรของพระชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้น ต่อมาอะมีทิสต์จึงกลายเป็นอัญมณีที่ใช้แสดงฐานะพระชั้นผู้ใหญ่ของคริสตจักร สังเกตได้จากแหวนของพระสันตปาปาและแหวนของพระที่มีบรรดาศักดิ์สูงแหวนของพระ เหล่านี้ประดับด้วยอะมีทิสต์ทั้งสิ้น จนปัจจุบัน นี้อะมีทิสต์กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของบาทหลวง นอกจากนี้โบสถ์ในยุคกลางก็ประดับประดาไปด้วยอะมีทิสต์เช่นกัน (และเพราะเชื่อกันว่าสีม่วงเป็นสีแห่งความศรัทธาในศาสนา) อะมีทิสต์มีคุณสมบัติช่วยคุ้มครองให้พ้นจากภยันตราย ช่วยเสริมสติปัญญาให้มีความฉลาดปราดเปรื่อง มีความคิดที่สร้างสรรค์ และช่วยปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากอบายมุข ทั้งหลายที่เข้ามายั่วยุเช่นเดียวกับ โกเมน ในสมัย ก่อน บรรดาทหารจึงนิยมสวมใส่อัญมณีสีม่วงนี้เพื่อช่วยให้มีชัยเหนือศัตรู ทางด้านการบำบัด อะมีทิสต์เป็นอัญมณีสีม่วงซึ่งเป็นสีแห่งจิตวิญญาณจึงมีพลังช่วยกระตุ้น ประสาทสัมผัสช่วยขจัดความคิดที่ชั่วร้ายและชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อให้ เกิดสมาธิและการเรียนรู้ สำหรับ ผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับหากวางอัญมณีชนิดนี้ไว้ใต้หมอนจะช่วยให้หลับง่าย ขึ้นหรือหากวางไว้บนหน้าผากจะช่วยรักษาอาการปวดศีรษะด้วยแอเมทิสต์ยังมีพลัง ช่วยในการฟอกเลือด หรือสร้างเม็ดเลือดได้ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือด “Amethyst” มาจากคำว่า “Amethystos” ในภาษากรีก แปลว่า การมีสติ ไม่มึนเมาจึงเชื่อกันว่าแอเมทิสต์มีคุณสมบัติทำให้ไม่เมาอีกด้วยชาวโรมัน เชื่อว่าหากดื่มเหล้าจากจอกแอเมทิสต์หรือแช่อัญมณีชนิดนี้ไว้ในเหล้าจะช่วยให้ไม่ให้เมา ในปัจจุบันถ้วยไวน์ในบางแห่งจึงยังคงแกะสลักจากแอเมทิสต์ ทาง ด้านความรัก คนโบราณเชื่อกันว่าถ้านำอะมีทิสต์รูปหัวใจประดับบนเรือนทองคำหรือเงิน และบ่าวสาวมอบให้แก่กันและกันทั้งคู่จะมีชีวิตรักที่มีความสุขตลอดไป อะมีทิสต์ (Amethyst)ตำนานเกิดอะมีทิสต์




วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อัญมณี 12 ราศรี II

3.ราศีมีน (14 มี.ค. - 13 ม.ย.)

อัญมณีประจำราศี :คือความารีน อความารีน (Aquamarine) อัญมณีสีฟ้าใสนี้อยู่ในตระกูลเบริล (Beryl) ตระกูลเดียวกันกับมรกตจึงมีความแข็ง 7.5 โมส์ และมีความวาวแบบแก้วเช่นเดียวกัน คำว่า “Aquamarine” นั้นมาจาก ภาษา ละติน แปลว่าน้ำทะเลซึ่งเป็นสีของอัญมณีชนิดนี้นั่นเองสีของอะควอมารีนซึ่งเกิดจาก ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบมีตั้งแต่สีฟ้าอมเขียวไปจนถึงสีเขียวอมฟ้า แต่สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือสีฟ้าที่ไม่มีสีเขียวปนอยู่เลยหรือสีน้ำทะเลซึ่งเป็นสีที่หายากจึงมีการ ปรับปรุงคุณภาพของอความารีน โดยการเผาเพื่อขจัดสีเขียวออกไปจึงอาจกล่าวได้ว่าอะควอมารีนในปัจจุบันนี้ล้วนผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยวิธีนี้มาแล้วทั้งสิ้น ด้วย สีฟ้าใสที่เย็นตาของอความารีน จึงเป็นอัญมณีที่ดึงดูดใจหญิงสาวทั่วโลกนอกจากนี้ยังเป็นอัญมณีที่บรรดานัก ออกแบบชื่นชอบและเลือกนำไปทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ มากมาย เครื่องราง นำโชคของนักเดินเรือจากนิทานเก่าแก่ของอิตาลี ได้กล่าวไว้ว่า เทพเนปจูนเทพแห่งมหาสมุทรได้มอบอความารีน ให้เป็นของกำนัลแก่นางเงือกเสมอนักเดินเรือในสมัยโบราณเชื่อว่า อความารีน เป็นหินนำโชคสามารถคุ้มครองพวกเขาจากภยันตรายต่าง ๆ จากทะเลได้ และยังช่วยไม่ให้เมาคลื่นด้วยพอถึงยุคกลางของยุโรป เชื่อกันว่าอความารีนจะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถเอาชนะความชั่วร้ายที่เข้ามารังควานได้ อัญมณี สีฟ้าเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบ มองดูเยือกเย็นมีพลังในการขจัดความสับสนวุ่นวายภายในจิตใจได้ ดังนั้นหากสวมใส่อความารีน ไว้ก็จะช่วยคลายความวิตกกังวล หรือความคิดด้านลบออก ไปได้นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกไว้วางใจกัน ความเข้าใจกันทำให้สัมพันธภาพยั่งยืนนานหากคู่รักเลือกใส่อความารีน ก็จะช่วยให้ชีวิตแต่งงานมีความสุขทางด้านการบำบัดรักษาอะความารีนมีพลังช่วย บรรเทาการเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อนได้ด้วย เช่น ไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือลดไข้ ช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวเนื่องกับระบบประสาทและลำคอ

 
 
4. ราศีเมษ (14 เม.ย. – 13 พ.ค.)

อัญมณีประจำราศี คือ เพชร เพชร (Diamond) คือ อัญมณีอันเป็นที่ปรารถนาของผู้คนทุกยุคทุกสมัยเพราะเป็นอัญมณีที่มีทั้งความ งดงามและความแข็งแกร่งเกินกว่าจะหาอัญมณีชนิดอื่นใดมาเทียบได้ มนุษย์เรารู้จักเพชร ตั้งแต่ เมื่อ 2,000 ปีที่แล้วโดยขุดพบครั้งแรกที่ประเทศอินเดียอินเดียจึงกลายเป็นศูนย์กลางผลิต และจำหน่ายเพชรตั้งแต่นั้นมาต่อมาตลาดเพชรเริ่มขยายตัวไปสู่ยุโรปเมื่อวาสโก ดากา มาค้นพบเส้น ทางการเดินเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) ทำให้เกิดเส้นทางการค้าระหว่างอินเดียกับยุโรปขึ้น ส่วนผู้ที่ทำให้เพชรเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรป คือ แอ็กเนส โชเวลเธอได้ สวมใส่เพชรเป็นเครื่องประดับไปในงานของราชสำนักฝรั่งเศสเป็นคนแรกทำให้ผู้คน ในงานได้ประจักษ์ถึงประกายอันงดงามของอัญมณีชนิดนี้และต่อมาเพชรจึงแพร่ กระจายไปทั่วโลก เป็นที่นิยมกันอยู่ทุกวันนี้ เพชร หรือ Diamond เป็นคำที่มาจากภาษากรีกว่า Adamas แปลว่า ไม่มีใครเอาชนะได้ส่วนในภาษาไทย ” เพชร ” มาจากคำว่า ” วัชระ ” ในภาษาสันสกฤตซึ่งแปลว่า สายฟ้าหรืออาวุธของพระอินทร์ เชื่อกันว่าเพชรจะช่วยให้ผู้ที่สวมใส่มีชัยชนะเหนือผู้อื่นเสมอและเพชรยังมี อำนาจศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้นั้นให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ประสบแต่โชค นอกจากนี้เพชรยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เพชร ช่วยป้องกันการอักเสบตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้สำหรับผู้ที่สูญเสียความมั่นใจหรือต้องการความกล้าหาญเพชรมี พลังช่วยกระตุ้นให้เกิดความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ต่าง ๆอย่างมีสติ และยังช่วยชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วย

 

5. ราศีพฤษภ (14 พ.ค. – 13 มิ.ย.)

อัญมณีประจำราศี คือ มรกต



มรกต (Emerald)
เป็นอัญมณีในตระกูลเบริล (Beryl) ซึ่งเป็นอัญมณีตระกูลเดียวกันกับอะความารีน (Aquamarine) จึงมีความแข็ง 7.5 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้ว มรกตเป็นอัญมณีที่มนุษย์ รู้จักมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ มีหลักฐานบันทึกไว้ว่าพระนางคลีโอพัตราเคยเป็นเจ้าของเหมืองมรกตใกล้ทะเลแดง ในอียิปต์และจากการขุดค้นทางโบราณคดี พบว่ามีการแกะสลักมรกตเป็นรูป ตัวด้วงและแมลงมีปีกต่าง ๆด้วย บนมงกุฎของพระเจ้าซาร์ (Czar) กษัตริย์แห่งรัสเซียก็ประดับด้วยมรกตด้วย คำว่า “Emerald” มาจากภาษากรีกว่า Smaragdos แปลว่า หินสีเขียว สีเขียว คือสี ที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สีแห่งความอุดมสมบูรณ์จึงเชื่อกันว่ามรกตนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวยชาวเปรูในสมัยก่อนนับถือมรกตเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์เชื่อกันว่ามี อำนาจปกป้องคุ้มครองผู้ สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้ด้วยความศรัทธาของชาวเปรูพวกเขาได้สร้างศาลเจ้าที่เก็บมรกตจำนวนมากเพื่อ สักการะบูชาอัญมณีชนิดนี้ สีของมรกตเป็นสีที่เย็นตา จึงมีผลดีต่อสายตา นอกจาก นี้มรกตยังมีพลังช่วยบำบัดอาการอักเสบต่าง ๆ ช่วยรักษาโรคติดเชื้อเรื้อรังสำหรับผู้ที่เหนื่อยล้าจากการทำงานหนักหรือผู้ ที่เพิ่งฟื้นจากการเจ็บป่วยหากสวมใส่มรกต อัญมณีชนิดนี้จะช่วยคืนพลังได้ มรกต ยังเป็นอัญมณีที่เทพธิดาวีนัส เทพธิดาแห่งความรักโปรดปรานมากเชื่อกันว่ามรกตมีพลังอำนาจทำให้คู่รักมีความ ซื่อสัตย์ต่อกันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักที่จริงใจ เหมาะที่จะให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อัญมณี 12 ราศรี III

6. ราศีเมถุน (14 มิ.ย. – 13 ก.ค.)

อัญมณีประจำราศี คือ ไข่มุก ไข่มุก (Pearl) อัญมณีแห่งความบริสุทธิ์ที่สตรีทั่วโลกหลงใหลนั้นตามตำนานในคัมภีร์พระเวท บันทึกไว้ว่า ไข่มุกเกิดจากฟันของอสูรวลาฟันเหล่านี้ร่วงหล่นลงมาบนโลกมนุษย์แล้วหลุด เข้าไปอยู่ในเปลือก หอยมุกทำให้เกิดมุกขึ้น แต่แท้จริงแล้วไข่มุกเกิดจากการที่มีเม็ดทรายหรือสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปใน ตัวหอยมุกทำให้หอยมุกเกิดความระคายเคืองจึงต้องขับ ” น้ำมุก ” (Narce) ซึ่งประกอบ ด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ออกมาเคลือบสิ่งปลอมนั้น น้ำมุกที่หอยมุกขับออกมาทำให้สิ่งแปลกปลอมนั้นมีความแวววาวยิ่งหอยมุกขับน้ำ มุกออกมาเคลือบนานเท่าไรสิ่งแปลก ปลอมนั้นก็มีความแวววาวและความงดงามมากขึ้นเท่านั้น ในปัจจุบัน มีมุกเลี้ยงซึ่งเกิดขึ้นโดยการเลียนแบบการเกิดมุกธรรมชาติ นั่นคือใส่แกนของไข่มุกเข้าไปในตัวหอยมุก แล้วนำกลับ ลงไปในทะเลหอยมุกก็จะขับน้ำมุกออกมาเคลือบไปเรื่อย ๆ ประมาณครึ่งปีจึงนำหอยมุกกลับขึ้นมาวิธีการเลี้ยงหอยมุกนี้พัฒนาขึ้นโดยโคคิ จิ มิกิโมโตะ (Kokichi Mikimoto) เมื่อ ค .ศ . 1893 ไข่มุกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวเท่านั้น ยังมีสีเหลือง สีชมพู และสีดำแต่ไม่ว่าไข่มุกจะมีสีใด ลักษณะของไข่มุกที่ดีควรมีทรงกลม แวววาวและสะอาด มนุษย์ เรารู้จักไข่มุกมาเป็นเวลานานแล้วเชื่อกันว่ามีการค้นพบไข่มุกครั้งแรกใน บริเวณตะวันออกกลาง ว่ากันว่าพระนางคลีโอพัตราทรงใช้ตุ้มหูมุกเป็นเครื่องประดับและมักจะจุ่ม ตุ้มหูมุกลงไป ในเหล้าองุ่นก่อนดื่มเพราะเชื่อว่าไข่มุกมีพลังช่วยคงความหนุ่มสาวเอาไว้ได้ กวีชาวกรีกนามว่า โฮเมอร์ซึ่งเป็นกวีในยุคเมื่อ 1,200 – 850 ปีก่อนคริสตศักราชได้กล่าวถึงการใช้ไข่มุกเป็นเครื่อง ประดับของเทพธิดายูโนไว้ในวรรณกรรมของเขาด้วยหญิงสาวชาวโรมันก็นิยมสวมใส่ ไข่มุกเช่นเดียวกันส่วนชาวจีนในสมัยก่อนใช้ไข่มุกเป็นเครื่องบอกยศถา บรรดาศักดิ์ ไข่มุก เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ด้วยสีอันนุ่มนวลงดงามของอัญมณีชนิดนี้เมื่อหญิงสาวนำมาใส่จึงช่วยกระตุ้น ให้ความเป็นกุลสตรีเด่นชัดขึ้นทำให้เกิดความนุ่มนวลอ่อนหวาน นอกจาก นี้ยังเชื่อกันว่าหากวางไข่มุกไว้ใต้หมอนจะช่วยให้คู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตร ได้มีบุตรสมหวังทางด้านการบำบัดรักษา ไข่มุกเป็นอัญมณีธาตุน้ำจึงเชื่อกันว่าไข่มุกมีพลังช่วยลดไข้หรือโรคที่เกิดจากความร้อนช่วยบำบัดอาการของคนที่เป็นโรคไต หอบหืด เสมหะ และระบบทางเดินหายใจไม่ปกติ

 



7. ราศีกรกฎ (14 ก.ค. – 13 ส.ค.)
 
อัญมณีประจำราศี คือทับทิม มณีแดง พลอยแดง ปัทมราช รัตนราช ล้วนหมายถึง ทับทิม หรือราชาแห่งอัญมณีทั้งสิ้น ทับทิมหรือ Ruby ซึ่งแปลว่า สีแดงเป็นอัญมณีในตระกูลคอรันดัม (Corandam) ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไพลิน (Blue Sapphire) ด้วยความแข็งถึง 9 โมส์ (Moh) ซึ่งเป็นรองเพียงแค่เพชรสีแดงที่สดใสสะดุดตา ประกายอันเจิดจ้า ประกอบกับความเชื่อเกี่ยวกับอำนาจลึกลับจึงทำให้ทับทิม เป็นที่ปรารถนามาทุกยุคทุกสมัย วรรณกรรมอินเดียได้บันทึกลักษณะของทับทิมไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนอันเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรารู้จักทับทิมมาเป็นเวลานานราชวงศ์อังกฤษก็ใช้ทับทิมประดับเป็นแหวนทองราชาภิเษกโดยสลักเป็นรูปไม้กางเขนเซนท์จอร์จและรอบ ๆตัวทับทิมถูกประดับรายล้อมไว้ด้วยเพชรถึง 26 เม็ด กล่าวได้ว่า ทับทิม คือ อัญมณีที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง ในคัมภีร์ไบเบิ้ลยกย่องอัญมณีสีแดงชนิดนี้ว่าเป็นดั่งความมีสติปัญญาอันล้ำเลิศ เชื่อกันว่าผู้ใดมีทับทิมที่มีสีแดงสดใส ไม่มีตำหนิ จะทำให้ผู้นั้นมีอำนาจ ร่ำรวยสุขภาพสมบูรณ์ มีสติปัญญาดี และประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนทางด้านความรัก ถือกันว่าทับทิม คือ อัญมณีที่ทำให้สุขสมหวังในความรักสีแดงของทับทิมเป็นสีแห่งความรักและอารมณ์ทับทิมจึงมีพลังช่วยกระตุ้นให้กล้าแสดงออกและกล้าแสดงความรู้สึกรักมากขึ้นทำให้สมหวังในเรื่องรัก และยังช่วยผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ด้วยทับทิมยังถูกนำมาเป็นของขวัญในวาระครบรอบการแต่งงานปีที่ 15 และปีที่ 40 สำหรับผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น โลหิตจางหรือผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับอวัยวะเพศ ทับทิมมีพลังช่วยบำบัดอาการเหล่านี้ได้






8. ราศีสิงห์ (14 ส.ค. – 13 ก.ย.)

อัญมณีประจำราศี คือเพอริดอท  เพอริดอท  เป็นอัญมณีแปลกประหลาดที่นอกจากจะพบได้ตามชั้นหินอัคนีในโลกแล้วยังพบได้จากลูกอุกกาบาตนอกโลกที่ตกลงมาบนโลกของเราด้วยคำว่า เพอริดอท (Peridot) เป็นภาษาฝรั่งเศส เป็นอัญมณีในตระกูลโอลิวีน (Olivine) ซึ่งแปลว่า สีเขียวมะกอก มีความแข็ง 6.5 – 7 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้วสีของเพอริดอทมีทั้งสีเขียวอมเหลือง สีเขียวใส สีเขียวอมเทา สีเขียวอมน้ำตาลแต่สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ สีเขียวใสบริสุทธิ์ ในสมัยอียิปต์โบราณ มีการทำเหมืองเพอริดอทบนเกาะ Zeberget แต่ต้องทำกันในเวลากลาง คืนเท่านั้นเพราะในเวลากลางวันจะมองไม่เห็นแร่ชนิดนี้ส่วนชาวโรมันเรียกเพ อริโดว่า Evening Emerald เพราะเมื่อใช้ตะเกียงส่องหาแร่ชนิดนี้ในเวลากลางคืนก็ยังคงมองเห็น ต่อมาในยุคกลางมีการนำเพอริดอทไปประดับตามโบสถ์สันนิษฐานว่าชาวยุโรปที่ไปร่วมรบในสงครามครูเสดเป็นผู้ที่นำเพอริดอทเหล่านี้กลับมา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้คนมากมายเชื่อกันว่าเพอริดอทมีพลังสามารถขับไล่วิญญาณร้าย ภูตผีปีศาจได้ และช่วยคุ้มครองผู้สวมใส่ด้วยนักรบสมัยโบราณจึงมักจะพกอัญมณีชนิดนี้ติดตัวไว้เพอริดอท มีพลังที่ทำให้จิตใจของผู้สวมใส่เข้มแข็ง กล้าหาญและหากนำเพอริดอทไปประดับกับทองจะยิ่งทำให้เพอริดอทมีพลังมากขึ้น ทางด้านความรัก จากพลังของเพอริดอทที่นำมาซึ่งอารมณ์และจิตใจที่มั่นคงจึงทำให้คู่แต่งงานที่สวมใส่อัญมณีชนิดนี้มีความสุขในชีวิตแต่งงานทางด้านการบำบัดรักษา เพอริดอทช่วยในเรื่อง ระบบทางเดินอาหาร เช่นช่วยในการดูดซึมอาหาร ช่วยการทำงานของม้าม ถุงน้ำดี ตับ ตับอ่อนและรักษาโรคหอบหืดได้เพอริดอท






วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อัญมณี 12 ราศรี VI

3. ราศีกันย์ (14 ก.ย. – 19 ต.ค.)

อัญมณีประจำราศี คือไพลิน  ไพลิน (Blue Sapphire)เป็นอัญมณีในตระกูลคอรันดัม (Corandam) ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกันกับทับทิม จึงมีความแข็ง 9 โมส์ (Moh) และมีความวาวแบบเพชรเช่นเดียวกัน แต่ไพลินมีแร่ไททาเนียม และเหล็กปนอยู่ในผลึกจึงทำให้ไพลินมีสีน้ำเงิน ในขณะที่ทับทิมมีแร่โครเมียมปนอยู่จึงทำให้มีสีแดง คำเรียกอัญมณีชนิดนี้ แต่เดิมนั้นคนไทยเรียกว่า นิลกาฬดังที่ปรากฏในคำกลอนนพรัตน์ ที่ว่า ” สีหมอกเมฆนิลกาฬ ” แต่ต่อมาเปลี่ยนมาเรียกกันว่า ” ไพลิน ” เนื่องจาก เมื่อประมาณ 30 – 40 ปีก่อนนิลกาฬสีน้ำเงินเข้มสดที่มาจากจังหวัดไพลิน ประเทศเขมรเป็นที่ต้องการ ของตลาดมากเมื่อผู้ขายนำมาขายจึงต้องระบุว่ามาจากจังหวัดไพลิน จนคำว่า ” ไพลิน ” กลายเป็นคำเรียกแทน ” นิลกาฬ ” ไปโดยปริยาย ส่วนคำว่า Sapphire นั้น มาจากคำว่า Sapphiros ในภาษากรีก แปลว่า สีน้ำเงิน คนใน สมัยโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับอัญมณีชนิดนี้หลากหลาย เช่นชาวยิวเชื่อว่าไพลินเป็นเสมือนสารลับจากพระเจ้าชาวเปอร์เซียคิดว่าโลก ของเราวางอยู่เหนือไพลินขนาดใญ่ ส่วนท้องฟ้า คือภาพสะท้อนสีสันอันงดงามของไพลิน ไพลิน เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงและความซื่อสัตย์ผู้หญิงจำนวนมากจึงเลือกใช้ ไพลินมาทำเป็นแหวนหมั้นนอกจากนี้ไพลินยังเป็นอัญมณีแห่งคุณธรรมอีกด้วยช่วย ทำให้ผู้ที่สวมใส่มีจิตใจ ตั้งมั่นอยู่ในความดี ช่วยควบคุมอารมณ์เพิ่มความเชื่อมั่นและความศรัทธาต่อตัวเอง ช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและเช่นเดียวกับอัญมณีทรงคุณค่าชนิดอื่น ๆไพลินก็มีอำนาจช่วยปกป้อง ให้พ้นจากภยันตรายต่าง ๆ ด้วย ทางด้านการบำบัดรักษาไพลินช่วยบรรเทาโรคหรืออาการทางสมอง โรคที่เกี่ยวกับประสาทและไขสันหลังผิวหนังอักเสบได้






10. ราศีตุลย์ (14 ต.ค. – 13 พ.ย.)

อัญมณีประจำราศี คือโอปอลโอ ปอล (Opal)  เป็นอัญมณีในตระกูลควอร์ตซ์ (Quatrz) เช่นเดียวกับแอเมทิสต์ซึ่งเป็นอัญมณีประจำราศีกุมภ์ มีความแข็ง 5 – 6 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้วและยางสน มีหลายสีด้วยกัน เช่น สี ขาว แดง เหลือง เขียว ม่วง ดำแต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ โอปอลไฟ จากสีสันลวดลายอันงดงามที่พาดผ่านบนตัวโอปอลนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์ ไพลนี (Pliny) ชื่นชมไว้ว่า มันคือศูนย์รวม ความงามของเหล่าอัญมณีเพราะประกอบด้วยเปลวไฟสีแดงจากทับทิม ประกายสีม่วงเหมือนแอเมทิสต์และสีเขียวน้ำทะเลจากมรกต คำว่า Opal มาจากภาษาสันสกฤตว่า Upula หิน มีค่าโอปอลเป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานานหลายพันปีมาแล้ว โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันตกนักโบราณคดีชื่อ Louis Leaky ขุดพบเครื่องประดับโอปอลที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งมีอายุถึง 6,000 ปี ใน ถ้ำที่ประเทศเคนยา มงกุฎของกษัตริย์แห่งอาณาจักร Holy Roman ประดับด้วยโอปอลชื่อ Orphanus มงกุฎของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสก็ประดับด้วยโอปอลเช่นกันอัญมณีสีรุ้งนี้ยัง เป็นแรงบันดาล ใจให้กับนักเขียนในสมัยก่อนมากมาย เช่น วิลเลียมเช็คสเปียร์ (William Shakespeare) เซอร์ วอลเตอร์ สก็อต (Sir Walter Scott) ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ ๆ แก่ โอปอล สัญลักษณ์ แห่งความหวังของชาวตะวันตก ชาวตะวันตกเชื่อกันว่าโอปอลเป็นหินแห่งโชคลาง มีความเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์สามารถบอกเหตุล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุดีหรือ เหตุร้ายโอปอลยังเป็น สัญลักษณ์แห่งความหวัง เพราะมันเต็มไปด้วยสายรุ้งแห่งความหวังผู้ที่สวมใส่อัญมณีชนิดนี้จะสมหวังใน สิ่งที่ต้องการ ชาวอาหรับเชื่อว่าโอปอล คืออัญมณีที่ตกลงมาจากสวรรค์ทาง ด้านการบำบัด หากสตรีมีครรภ์สวมใส่โอปอลจะช่วยให้คลอดบุตรง่ายหากทำเป็นเครื่องประดับผมจะ ช่วยให้ผมดำเงางาม ในยุคกลางเชื่อกันว่าโอปอลทำให้สายตาดี หากกลัดเป็นเข็มกลัดไว้ที่หน้าอกจะช่วยให้ปอดดีขึ้น

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อัญมณี 12 ราศรี VII

11. ราศีพิจิก (14 พ.ย. – 13 ธ.ค.)

อัญมณีประจำราศี คือโทแพซ โทแพซ (Topaz) เป็นอัญมณีที่มีความแข็ง 8 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้วจัดว่าเป็นอัญมณีที่มีความแข็งพอสมควร เหมาะที่จะนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพราะทนต่อรอยขีดข่วน คำว่า “Topaz” มาจากคำว่า Topas แปลว่า ไฟ ประกายหรืออาจจะมาจากคำว่า Topazion ซึ่งเป็นชื่อเกาะในทะเลแดงซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ขุดพบพลอยชนิดนี้ โทแพซ ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ โทแพซ Braganza ซึ่งประดับอยู่ที่มงกุฎของกษัตริย์แห่งโปรตุเกสโทแพซ ไม่ได้มีเพียงสีเหลืองสีเดียวเท่านั้น แต่ยังมีสีสันอื่น ๆ อีก เช่น สีน้ำตาลสีส้ม สีลูกเชอร์รี่ สี แดง สีชมพู นอกจากนั้น ยังมีโทแพซสีฟ้าเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสีแต่โทแพสสีนี้เกิดจากการฉายรังสีโทแพซ สีขาวให้เกิดสีฟ้าขึ้น ชาวอียิปต์เชื่อว่าสีของโทแพซ เกิดจากแสงสีทองของเทพราซึ่งเป็น เทพแห่งดวงอาทิตย์ทาบทาลงไปโทแพซ จึงเป็นเครื่องรางที่มีพลังขจัดสิ่งชั่วร้ายได้และความลุ่มหลงต่าง ๆ ได้ชาวโรมันก็เชื่อว่าโทแพซ มีความเกี่ยวข้องกับเทพจูปิเตอร์ซึ่งเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์เช่นกัน โทแพซ เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ สิริมงคลของการสวมใส่อัญมณีชนิดนี้ คือ มีเสน่ห์เป็นที่รักแก่ผู้ที่พบเห็น ชีวิตรุ่งเรือง โทแพซ ยังมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคหวัดวัณโรค หอบหืด และช่วยให้ ปอดทำงานดีขึ้นหากวางไว้ใต้หมอนขณะนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายมีพลังในการทำงาน ยังเชื่อกันอีกว่าอัญมณีสีทองนี้จะเปลี่ยนสีหากอาหารหรือเครื่องดื่มมียาพิษ





12. ราศีธนู (14 ธ.ค. – 13 ม.ค.)

อัญมณีประจำราศี คือเทอร์ควอยซ์ สีฟ้าของเทอร์ควอยซ์ คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนไม่ว่ายุคใดหรือวัยไหนให้หลงใหลอย่างไม่เสื่อมคลาย เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) หรือพลอยขี้นกการเวก เป็นอัญมณีที่เป็นที่รู้จักกันมานานกว่า 5,000 ปีการขุดค้นทางโบราณคดี พบกำไลทองคำที่ประดับด้วยเทอร์ควอยซ์ อะมีทีสต์ (Amethyst) ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) ในสุสานราชวงศ์แรกของอียิปต์มัมมี่พระศพตุตันคาเมนก็ห่อหุ้มด้วยทองคำประดับอัญมณีหลากหลายชนิดรวมทั้งเทอร์ควอยซ์ด้วย อย่างไรก็ตาม ชื่อ “Turquoise” เพิ่งใช้เรียกอัญมณีชนิดนี้ในช่วงที่เกิดสงครามครูเสดเนื่องจากบรรดานักรบชาวยุโรปที่เดินทางไปร่วมรบในสงครามครูเสดได้นำอัญมณีชนิดนี้กลับมาชื่อของอัญมณีชนิดนี้แปลว่า หินจากตุรกี (Turkish Stone) สีของเทอร์ควอยส์มีตั้งแต่สีฟ้าไปจนถึงสีเขียวอมเทาแต่ที่นิยมมากที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุด คือ สีฟ้าของท้องฟ้าในเนื้อพลอยมักจะมีลายเส้นบาง ๆ พาดพันไปมาเป็นลวดลายสวยงามเหมือนใยแมงมุม ผู้คนในสมัยโบราณเชื่อกันว่า เทอร์ควอยซ์เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ เป็นหินนำโชคนำความมั่งคั่งร่ำรวยมาสู่ผู้สวมใส่บอกเหตุล่วงหน้าได้และยังเป็นเครื่องรางป้องกันภัยได้ ชาวอียิปต์และชาวแอซเท็ก (Aztec) ชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของเปรูเชื่อว่าเทอควอยซ์เป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองชาวแอซเท็กใช้เทอร์ควอยซ์ประดับหน้ากากที่ใช้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีเรียกฝนชาวมุสลิมใช้เทอร์ควอยซ์มาประดับคู่กับไข่มุกบนหมวกโพกศีรษะเพื่อคุ้มครองตนจากสิ่งชั่วร้ายชาวอินเดียนแดงเชื่อว่า เทอร์ควอยซ์เป็นสัญลักษณ์แห่งท้องฟ้าเป็นดังลมหายใจและนำมาซึ่งจิตวิญญาณของท้องฟ้าและท้องทะเล ทำให้ยิงธนูได้แม่นและยังเชื่อกันว่าเทอร์ควอยซ์ที่ดีที่สุดนั้นถูกซ่อนไว้ในดินแดนที่อยู่สุดปลายสายรุ้ง ส่วนผู้ที่ขี่ม้าในสมัยก่อนนิยมพกอัญมณีชนิดนี้ติดตัวไว้เพื่อป้องกันการตกม้าความเชื่อดังกล่าวได้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยผู้ที่ใช้พกเทอร์ควอยซ์ คือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องบิน หรืออาชีพอื่นที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและหากผู้สวมใส่กำลังตกอยู่ในอันราย เทอร์ควอยซ์จะเปลี่ยนสีแต่จากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ พบว่าเทอร์ควอยซ์เปลี่ยนสีไปเนื่องจากอิทธิพลของแสงเครื่องสำอาง ฝุ่น ค่า ph ของผิวผู้สวมใส่ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีขึ้น สีฟ้าของเทอร์ควอยซ์ยังช่วยคลายเครียด ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และเทอร์ควอยซ์ยังเป็นอัญมณีที่มีคุณสมบัติในด้านความรัก ความเมตตา มิตรภาพอีกด้วยนอกจากนี้เทอร์ควอยซ์มีทองแดงเป็นส่วนประกอบจึงมีคุณสมบัติช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ดีช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ อาการปวดสะโพก





พอจะทราบกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าตัวเราควรใส่อัญมณีชนิดไหน จึงจะเหมาะสมและเสริมตนเอง อ่านจบแล้วสามารถกดแชร์บทความนี้.shเพื่อนๆได้อ่านกันได้นะคะ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แหล่งอ้างอิงคร้าาา

แหล่งอ้างอิง

เนื้อหาส่วนหนึ่ง ดิฉันอ้างอิงมาจาก  หนังสือ เรื่อง อิยิปต์มนตรา อัญมณีพยากรณ์ ค่ะ

 
 
เนื้อหาส่วนหนึ่ง มาจาหนังสือเล่นนี้น่ะค่ะ  สามารถหาอ่านกันได้ในบุ๊คสโตร ทั่วไปน่ะค่ะ